STYLISTIC สุดยอดเลนส์โปรเกรสซีฟบนกรอบแว่นตากันแดด

หลายคนที่มีปัญหาทางสายตาอยากได้แว่นตากันแดดสวยๆ เท่ๆ แต่ร้านแว่นตาหลายร้านไม่แนะนำหรืออาจปฏิเสธในการทำให้ บางท่านอาจเคยลองทำมาแล้วพบปัญหาว่าใส่ได้ไม่สบายตา ให้ภาพที่ผิดปกติ เป็นต้น หรือแว่นกันแดดกรอบโค้งแต่ถูกดัดให้เป็นเป็นกรอบตรงขาดความสวยงามไป บทความนี้เรามาดูกันว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น และเราจะสามารถทำอย่างไรได้บ้างหากอยากได้เลนส์ที่มค่าสายตาบนแว่นดันแดดสวยๆ สักอัน

ก่อนหน้านี้เราได้พูดถึงสุดยอดเลนส์โปรเกรสซีฟของ Essilor ที่ชื่อว่า Varilux S-Series อันนั้นเป็นเลนส์โปรเกรสซีฟคุณภาพสูงบนกรอบแว่นตาปกติ ที่ไม่รองรับกรอบแว่นตาที่มีลักษณะโค้งมากๆ และ/หรือมีขนาดใหญ่มากของแว่นกันแดด ก่อนหน้านี้หากเราต้องการเอากรอบแว่นตากันแดดมาทำเลนส์โปรเกรสซีฟ ร้านแว่นตาส่วนใหญ่มักจะเลี่ยงที่จะทำให้ ทั้งนี้เพราะทราบดีว่าโอกาสที่ลูกค้าจะพบปัญหาในการสวมใส่ที่ไม่สบายมีมาก ซึ่งมีสาเหตุมาจากเรื่องของความบิดเบือนภาพ หรือที่เรียกว่า Aberration จะสูง

การแก้ไขปัญหาดังกล่าวมักจะกระทำโดยการนำเลนส์สายตา หรือเลนส์โปรเกรสซีฟบนกรอบแว่นทั่วไปมาย้อมสีหรือเคลือบเปลี่ยนสีแทน ทำให้ได้แว่นตากันแดดที่ขาดความเป็นแฟชั่นของรูปทรงของกรอบแว่นไป อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้บริษัท Essilor ได้มีการนำเลนส์ Progressive digital wrap ที่เป็นโครงสร้างแบบ Digital surface progressive lens เพื่อตอบสนองความต้องการดังกล่าว แต่ก็ยังคงมีข้อจำกัดอยู่บ้างในแว่นกันแดดที่โค้งมากๆ และความบิดเบือนยังคงมีอยู่ในระดับหนึ่ง

การบิดเบือนของภาพที่เกิดกับเลนส์แว่นตานั้น มีด้วยกันทั้งหมด 5 ชนิดคือ

1. Chromatic aberration
2. Spherical aberration
3. Coma
4. Oblique astigmatism
5. Curvature of field
6. Distortion

ตามทฤษฎีนั้น Chromatic, Spherical และ Distortion สามตัวนี้โดยกลไกของการทำงานของม่านตาเรา จะสามารถลดการบิดเบือนของภาพได้เอง ส่วน Oblique astigmatism และ Curvature of field จะต้องแก้ไขด้วยการเลือกความโค้งของเลนส์ที่เหมาะสมตามค่าสายตาตามหลักการของ Tscherning ellipse model 

แต่เลนส์แว่นตากันแดดนั้นมีความแตกต่าง เพราะในขณะที่อยู่กลางแดดนั้นตามปกติตาต้องหรี่ลงเพื่อลดแสงซึ่งจะไปลดความบิดเบือนภาพด้านข้าง หรือ Aberrations ขอสามตัวบนตามกลไกของม่านตา แต่เมื่อสวมแว่นกันแดดที่มีเลนส์สีเข้ม ปริมาณแสงที่เข้าสู่ดวงตาจะลดลงมาก ทำให้รูม่านตาต้องเปิดกว้างกว่าปกติภายใต้แว่นกันแดด มีผลให้ Aberrations ทั้งสามเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่กรอบแว่นกันแดดเองก็มีความโค้งมาก ความบิดเบือนของ Oblique astigmatism และ Curvature of field ก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน ดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเมื่อเราเอาเลนส์ทั่วไปมาย้อมสี แล้วนำมาใส่บนกรอบแว่นกันแดดจึงให้ภาพที่บิดเบือน และยิ่งบิดเบือนสูงมากขึ้นหากเป็นเลนส์โปรเกรสซีฟซึ่งมีพื้นที่ความคมชัดจำกัด

ทีนี้เรามาดูว่า Stylistic ของ Essilor นั้นที่ว่าเป็นสุดยอดเลนส์สำหรับแว่นตากันแดดนั้นมีโครงสร้างอย่างไรบ้าง จึงสามารถลดปัญหาการบิดเบือนของภาพดังที่กล่าวมาได้

1. W.A.V.E. 2.0 technology หรือที่รู้จักกันว่า wave front technology version 2.0 เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในการลด high order aberrations ข้างบนทั้งหมดโดยเฉพาะ และเป็นเทคโนโลยีเดียวกับที่ใช้ในการผ่าตัดแก้ไขสายตาหรือ Lasik

2. Prism compensation มีการเบี่ยงเบนแสงที่เข้าด้านข้างตาด้วยปริซึมซึ่งจะทำหน้าที่หักเหแสงในแต่ละจุดที่ผ่านเลนส์ให้ตรงและตั้งฉากกับตาให้มากที่สุด

3. เทคโนโลยีการผลิตแบบ Advance digital surfacing 360 ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ ที่ให้ความแม่นยำในระดับ 1/10 micron ซึ่งสามารถรองรับการออกแบบเลนส์ชั้นสูงได้ ไม่มีข้อจำกัดในการผลิต และให้เลนส์ที่มีค่าสายตาที่ถูกต้องและมีความบางเป็นพิเศษ

4. มีวงเลนส์ขนาดใหญ่ที่รองรับแว่นกันแดดขนาดใหญ่พิเศษได้

5. สามารถรองรับกรอบแว่นตากันแดดที่มีความโค้งสูงๆ ได้เป็นอย่างดี ด้วยการออกแบบโครงสร้างเลนส์ตามความโค้งของกรอบหน้าแว่น (Wrap angle) พร้อมชดเชยความคลาด (Aberrations) ที่เกิดขึ้นให้น้อยลง

6. สามารถเลือกความโค้งของหน้าเลนส์ได้หลายหลายตั้งแต่ base curve 5, 6, 7, 8 เพื่อรองรับกรอบแว่นตาที่โค้งมากๆ ทำให้แว่นตาที่ทำออกมามีความสวยงาม ไม่จำเป็นต้องดัดกรอบแว่นตาให้แบนตามโค้งเลนส์ที่แบน

7. ให้ค่าป้องกันรังสียูวีได้สูงกว่า E-SPF 50+ หรือกว่า 50 เท่าเมื่อเทียบกับตาเปล่าเมื่อเคลือบสีด้วย Crizal sun UV บนเลนส์ที่มีดัชนีหักเหตั้งแต่ 1.60 หรือ เลนส์โพลี่คาร์บอเนต

จะเห็นได้ว่า Stylistic มีการใช้เทคโนโลยีในการออกแบบและการผลิตขั้นสูง จึงเป็นสุดยอดเลนส์สายตาสำหรับแว่นตากันแดด Stylistic มีทั้งเลนส์ชั้นเดียวและเลนส์โปรเกรสซีฟ เพื่อตอบสนองความต้องการของแฟชั่นแว่นตากันแดดได้เป็นอย่างเต็มที่