เทคโนโลยีเลนส์โปรเกรสซีฟ

เทคโนโลยีของเลนส์โปรเกรสซีฟเราจะพิจารณาสองเรื่องด้วยกัน คือ

   1. เทคโนโลยีในการออกแบบเลนส์ และ
   2. เทคโนโนยีในการขัดเลนส์

เลนส์โปรเกรสซีฟที่ได้รับการออกแบบที่ดี ต้องมีเทคโนโลยีในการขัดที่ดีด้วยจึงจะได้เลนส์ที่ดีบนแว่นตา ที่ผ่านมาเทคโนโลยีในการขัดเลนส์ตามหลังเทคโนโลยีการออกแบบค่อนข้างมาก แต่ในปัจจุบันเทคโนโลยีการขัดเลนส์ดีขึ้นอย่างมาก สามารถตอบสนองการออกแบบเลนส์ที่ซับซ้อนได้ดี ทำให้ได้เลนส์โปรเกรสซีฟที่มีคุณภาพสูงขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับในอดีต

เทคโนโลยีการขัดเลนส์ปัจจุบันมีใช้อยู่สองชนิดด้วยกัน คือ

1. Conventional surfacing หรือแบบดั่งเดิม เป็นการทำแม่พิมพ์เลนส์ตามแบบโครงสร้างเลนส์โปรเกรสซีฟที่ต้องการ แล้วหล่อพลาสติกขึ้นรูปตามแบบ จากนั้นจึงนำมาขัดค่าสายตาด้วยเครื่องขัดเลนส์ตามด้วยการขัดผิวให้เรียบ แล้วตามด้วยขั้นตอนของการเคลือบผิวต่างๆ ที่ต้องการ ซึ่งเทคโนโลยีนี้มีข้อจำกัดค่อนข้างมาก เช่น เทคโนโลยีของแม่พิมพ์ ความหลากหลายและจำนวนแม่พิมพ์ จึงทำให้การออกแบบเลนส์มีข้อจำกัดและคุณภาพที่ได้ไม่ค่อยดีนัก
 
2. Digital surfacing หรือ Free form technology นิยมใช้ในปัจจุบัน เป็นการขัดเลนส์ทีละข้างด้วยเครื่องที่ควบคุมด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ทำงานคล้ายเครื่องกลึงสามมิติ CNC ด้วยความแม่นยำสูงและละเอียดมาก ทำให้ลดข้อจำกัดของเทคโนโลยีแบบดั่งเดิมและสามารถตอบสนองการออกแบบเลนส์ที่ซับซ้อนบน Software ได้เป็นอย่างดี ทำให้ได้เลนส์โปรเกรสซีฟที่มีคุณภาพสูงๆ ได้ อาจจะแยกเทคโนโลยีนี้ออกได้อีก คือ

2.1 Digital progressive back surfacing เป็นการวางโครงสร้างด้านหน้าให้เป็นหนึ่งโค้งหรือเรียกว่า base curve ตามทฤษฎีของ Tscherning ellipse ที่ในหนึ่งค่าสายตาจะมีอยู่หนึ่ง base curve ที่ดีที่สุดในการลดค่าเบี่ยงเบนแสงของเลนส์ และให้ digital progressive surface อยู่ด้านหลังซึ่งเชื่อว่าจะให้มุมมองที่กว้างกว่าเพราะอยู่ใกล้ตามากกว่า

2.2 Double side progressive digital surfacing มีการขัดเลนส์ทั้งสองหน้าแบบ digital surfacing เพื่อให้ได้โครงสร้างเลนส์โปรเกรสซีฟที่ดีที่สุด เช่น Varilux Comfort new edition หรือ Varilux S series ของบริษัท Essilor

จะเห็นว่าเทคโนโลยีแบบดั่งเดิมมีข้อดีคือ ทำได้ครั้งละมากๆ ทำให้ราคาถูก แต่มีข้อเสียที่รองรับการออกแบบที่ซับซ้อนมากไม่ได้ และจะต้องมีแม่พิมพ์จำนวนมาก ทำให้มีข้อจำกัดในด้านการออกแบบและคุณภาพของเลนส์ ส่วนวิธีที่สองเป็นการทำทีละชิ้นตามการออกแบบและค่าสายตาที่ต้องการด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ ข้อดีที่สามารถรองรับการออกแบบที่ซับซ้อนได้อย่างดี ทำให้เลนส์โปรเกรสซีฟที่มีคุณภาพสูงๆ ได้ แต่ก็มีราคาที่สูงขึ้นตามเช่นกันเพราะเป็นการทำตามที่ต้องการ (Individual progressive lenses) ของแต่ละบุคคล
 
นอกจากเรื่องการออกแบบโครงสร้างแล้วยังมีการเพิ่ม software ลงไปในเครื่องขัดเลนส์เพื่อช่วยให้เลนส์มีคุณภาพดีขึ้นในด้านต่างๆ เช่น

- wave front technology ลดการบิดเบือนแสงผ่านเลนส์ ทำให้มองเห็นได้ดีขึ้นโดยเฉพาะตอนแสงน้อย

- Aspheric surfacing ลดการบิดเบือนแสงผ่านเลนส์และทำให้เลนส์บางลง

- พฤติกรรมการใช้งาน เช่น การเหลือบตาหรือการหันศีรษะ ระยะห่างของตาดำ, ตาข้างเด่น ถูกนำมาใช้ในการออกแบบเลนส์ให้มีความเฉพาะบุคคลมากขึ้น