Minimum Blank Size and Boxing system: การหาขนาดวงเลนส์ที่เล็กสุดสำหรับเลนส์ชั้นเดียว และ Boxing system

25 มิถุนายน 2563

หลายคนอาจเคยพบปัญหาขนาดของวงเลนส์สต็อก ที่มีขนาดวงเลนส์เล็กเกินกว่าที่จะสามารถฝนและประกอบเข้ากรอบแว่นสายตาบางอันได้ โดยเฉพาะกรณีแว่นสายตาสำหรับอ่านหนังสือที่ต้องการเลนส์บวก หรือกรณีคนที่มีสายตายาวแต่กำเนิดและเลือกใช้กรอบแว่นตาขนาดใหญ่ เป็นต้น

หากยังคงเลือกใช้เลนส์สต็อกสำหรับแว่นตาคู่นั้น ก็จำเป็นต้องทำการเลื่อนจุดศูนย์กลางของเลนส์ออกจากตำแหน่งที่เหมาะสม ทำให้เกิดเลนส์นั้นเกิด Decentered ผลที่ตามมาทำให้แว่นสายตาคู่นั้นได้รับปริซึมที่ไม่ต้องการ (Unwanted prism) ทำให้เกิดผลข้างเคียงที่อาจส่งผลต่อผู้สวมใส่แว่นตาคู่นั้นได้ เช่น
-    ระยะเวลาในการปรับตัวให้เข้ากับแว่นคู่นั้นนานขึ้น
-    ไม่สบายตาในการใช้งาน และระยะเวลาการใช้งานสั้นลง
-    การมองเห็นที่ผิดปกติ เช่น พื้นเอียง เท
-    ภาพของวัตถุมีความผิดปกติ เช่น สูงเกินจริง 

หากเราสามารถทราบถึงขนาดของวงเลนส์ที่ต้องการได้ก่อน และพบว่าเลนส์สต็อกมีขนาดเล็กเกินไปไม่เหมาะสมในการฝนและประกอบให้เข้ากับกรอบแว่นตาคู่หนึ่ง เราก็สามารถจะพิจารณาเปลี่ยนกรอบแว่นตาใหม่ให้มีขนาดที่เหมาะสม หรือเลือกใช้เลนส์แล็ปที่ให้ขนาดวงเลนส์ได้สูงกว่า ก็จะทำให้เราได้แว่นสายตาที่มีคุณสมบัติทางแสงที่ดี

ก่อนอื่นเราต้องมาทำความเข้าใจวิธีในการกำหนดขนาดของกรอบแว่นตาและเลนส์กันก่อน เพื่อให้ได้เป็นมาตรฐานที่เข้าใจกันได้โดยทั่วไปนั้น ปัจจุบันเราใช้วิธีในการกำหนดขนาดที่เรียกว่า Boxing system ระบบนี้กำหนดขนาดกรอบแว่นตาผ่านขนาดของเลนส์ที่ต้องการสำหรับกรอบแว่นตานั้น ดังนั้นขนาดกรอบแว่นตาหนึ่งที่ระบุจึงเสมือนเป็นการกำหนดขนาดของเลนส์ที่ต้องการสำหรับกรอบแว่นสายตาคู่นั้นนั่นเอง

Boxing System การกำหนดขนาดของกรอบแว่นตาและเลนส์
ในปัจจุบัน Boxing system เป็นระบบมาตรฐานที่ใช้กันทั่วโลกในการกำหนดขนาดของกรอบแว่นตาและเลนส์ โดยอ้างอิงตามขนาดของเลนส์ที่ฝนและประกอบเข้ากับกรอบแว่นตานั้นๆ และกำหนดตำแหน่งของพารามิเตอร์ต่างๆ บนกรอบแว่นตาไม่ว่าจะเป็น PD ตา, PD กรอบแว่น, Fitting height, Segment height เป็นต้น ในการวัดขนาดของกรอบแว่นตาจึงใช้ตำแหน่งเลนส์ที่อยู่ในกรอบแว่นตาเป็นหลัก และทั้งหมดวัดในหน่วยของมิลลิเมตร

ความหมายของค่าต่างๆ ตามระบบ Boxing system
GC         - Geometrical center จุดกึ่งกลางของเลนส์บนกรอบแว่นตา (ไม่เกี่ยวข้องกับ OC)
GCD      - Geometrical center distance ระยะห่างของจุด GC ทั้งสอง หรือ Frame PD
A            - ขนาดความกว้างของกรอบตามแนวนอน หรือบางที่เรียกว่า Eye size or Lens size
B            - ขนาดความสูงของกรอบตามแนวตั้ง
DBL       - Distance between lenses หรือ Bridge size ระยะห่างที่แคบสุดระหว่างเลนส์ทั้งสอง
ED         - Effective diameter ระยะกว้างสุดของเลนส์เมื่อวัดผ่านจุด GC
SH         - Segment height ความสูงของเส้นถ้วยที่วัดจากจุดต่ำสุดของเลนส์

เรามักพบตัวเลขคู่หนึ่งบนขาแว่นตาหรือที่สะพานจมูกของกรอบแว่นตาเสมอ เช่น 50  18 ตัวเลขคู่ตัวแรกคือขนาดของ A และตัวเลขคู่หลังเป็นขนาดของ DBL และเมื่อเรานำตัวเลขทั้งสองมารวมกันก็จะได้เป็นขนาดของ GCD หรือ Frame PD อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ผลิตกรอบแว่นที่อ้างอิงตามระบบ Boxing system เท่านั้น

Boxing system มาจากคำว่า Box หรือช่องว่างที่เป็นที่อยู่ของเลนส์ในแต่ละข้าง เส้นอ้างอิงของระบบ Boxing system ทั้งแนวตั้งและแนวนอนจะลากผ่านส่วนนอกสุดของเลนส์ที่อยู่ภายในกรอบแว่นตา หากเราไม่สามารถวัดที่ขอบเลนส์ได้โดยตรง ถ้าวัดที่ขอบของกรอบแว่นตาจำเป็นต้องเผื่อ 0.5 มิลลิเมตรในแต่ละด้านสำหรับขนาดความลึกของร่องวางเลนส์สำหรับกรอบแว่นตาชนิดแบบเต็มทั้งพลาสติกและโลหะ

การหาขนาดวงเลนส์เล็กสุดที่ต้องการสำหรับกรอบแว่นตาหนึ่ง นับว่ามีความสำคัญต่อการตัดสินใจในการเลือกกรอบแว่นตาและเลนส์ และมีผลต่อการใช้งานของแว่นตานั้น โดยปกติเลนส์สต็อกจะมีการกำหนดขนาดวงเลนส์ไว้ค่าหนึ่งเพราะเป็นการจำกัดสต็อกสินค้าซึ่งมีผลต่อต้นทุนของสินค้า เลนส์สต็อกโดยทั่วไปจะมีขนาดวงเลนส์ที่ 70 และ 65 มิลลิเมตรสำหรับเลนส์ลบและและเลนส์บวกตามลำดับ

ขนาดของวงเลนส์เล็กสุดที่ต้องการสำหรับกรอบแว่นตาหนึ่งๆ จะขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัย คือ
-    ขนาดของ PD ตา 
-    ขนาดของกรอบ

หากกรอบแว่นตามีขนาดที่ใหญ่ หรือ PD ตามีขนาดเล็ก หรือกรณีแว่นสายตาสำหรับอ่านหนังสือที่ต้องใช้ PD ใกล้ จะทำให้เกิดผลต่างของ PD ตา และ PD กรอบ หรือที่เรียกว่า Decentration สูง จึงทำให้ต้องการวงเลนส์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นตามไปด้วย วิธีการหาขนาดวงเลนส์เล็กสุดที่ต้องการสำหรับกรอบแว่นตาหนึ่งของเลนส์ชั้นเดียวสามารถทำได้ 2 วิธี คือ
-    โดยวิธีการคำนวณ
-    โดยวิธีการใช้รูป

การหาขนาดวงเลนส์เล็กสุดที่ต้องการโดยวิธีการคำนวณ
การคำนวณหาขนาดวงเลนส์จะแปรตามขนาดของ Decentration ที่เกิดขึ้น ซึ่งมีผลโดยตรงต่อขนาดของวงเลนส์ที่ต้องการ ก่อนอื่นเราจึงต้องคำนวณหาค่า Decentration ก่อน ตามสูตรด้านล่างนี้

    DEC    = (A+DBL)/2 – monocular PD        DEC – decentration per lens

ตัวอย่างที่ 1 กรอบแว่นตาขนาด 52/18 และ PD ตาเท่ากับ 31/33
    DEC     = (A+DBL)/2 – monocular PD
    R-DEC    = (52+18)/2 – 31
        = 4 มิลลิเมตร
    L-DEC    = (52+18)/2 – 33
        = 2 มิลลิเมตร

ตัวอย่างที่ 2 กรอบแว่นตาขนาด 54/18 และ PD ตาเท่ากับ 29/31
    DEC     = (A+DBL)/2 – monocular PD
    R-DEC    = (54+18)/2 – 29
        = 7 มิลลิเมตร
    L-DEC    = (54+18)/2 – 31
        = 5 มิลลิเมตร

สูตรการคำนวณหา Minimum Blank Size

    MBS = ED + 2*DEC + 2        MBS - Minimum Blank Size
                                                  +2 เป็นการเผื่อเศษสำหรับการทำงานของเครื่องฝนเลนส์เพื่อให้ได้เลนส์ที่มีขนาดอย่างพอดี

ตัวอย่างที่ 3 จากตัวอย่างที่ 1 กรอบแว่นตานั้นวัดค่า ED ได้ 55 มิลลิเมตร หากต้องการฝนและประกอบด้วยด้วยเลนส์ชั้นเดียว จงหาขนาดวงเลนส์เล็กสุดที่ต้องการสำหรับกรอบแว่นตานี้
ตัวอย่างข้างต้นมีค่า Decentration สองข้างที่ไม่เท่ากัน ให้เลือกข้างที่มี Decentration ที่มากกว่า ในที่นี้คือข้างขวานำมาคำนวณหาขนาดวงเลนส์เล็กสุดที่ต้องการ
    R-DEC    = 4 มิลลิเมตร
    MBS    = ED + 2*DEC + 2
    R-MBS    = 55 + 2*4 + 2
        = 65 มิลลิเมตร
เพราะฉะนั้นขนาดวงเลนส์เล็กสุดที่ต้องการคือ 65 มิลลิเมตร

ตัวอย่างที่ 4 จากตัวอย่างที่ 2 กรอบแว่นตาวัดค่า ED ได้ 56 มิลลิเมตร ต้องการฝนและประกอบด้วยเลนส์ชั้นเดียว จงหาขนาดวงเลนส์เล็กสุดที่ต้องการ

    R-DEC    = 7 มิลลิเมตร
    MBS    = ED + 2*DEC + 2
    R-MBS    = 56 + 2*7 + 2
        = 72 มิลลิเมตร

กรณีนี้ขนาดวงเลนส์เล็กสุดที่ต้องการคือ 72 มิลลิเมตร ซึ่งเลนส์สต็อกมีขนาดวงเลนส์ที่ไม่เพียงพอ ดังนั้นอาจเลือกเปลี่ยนกรอบแว่นตาให้มีขนาดเล็กลง หรือเลือกไปใช้เลนส์ขัดแล็ปที่ให้ขนาดวงเลนส์ที่ใหญ่พอ

สรุป
การหาขนาดวงเลนส์เล็กสุดที่ต้องการสำหรับเลนส์ชั้นเดียว นับว่ามีความสำคัญในการตัดสินใจเลือกใช้เลนส์ได้อย่างถูกต้อง นอกจากช่วยลดปัญหาการเลือกใช้ขนาดวงเลนส์ที่มีขนาดเล็กเกินไปทำให้เกิด Decentered ซึ่งจะทำให้เกิดผลข้างเคียงของปริซึมที่ไม่ต้องการตามมา ส่งผลกระทบทำให้แว่นสายตาคู่นั้นต้องการเวลาในการปรับตัวที่นานขึ้น และอาจทำให้ใส่ได้ไม่สบายตาในการใช้งาน เป็นต้น

เราสามารถหาขนาดวงเลนส์ชั้นเดียวเล็กสุดที่ต้องการสำหรับกรอบแว่นตาหนึ่งสองวิธี คือการคำนวณและรูป ในทางปฏิบัติอาจเลือกใช้วิธีทางรูปซึ่งใช้เวลาสั้น สะดวกและรวดเร็ว ในการประเมินขนาดวงเลนส์ที่จะใช้ และอาจใช้วิธีการคำนวณร่วมในบางกรณีที่ขนาดวงเลนส์ที่ต้องการเข้าใกล้ขนาดจำกัดของวงเลนส์


วิชัย ลัคนาทิน
นักทัศนมาตร