1. ทำไมเลนส์โปรเกรสซีฟจึงมีราคาสูงและใช้งานยาก : ว่าด้วยเรื่องของโครงสร้างเลนส์โปรเกรสซีฟ

12 กุมภาพันธ์ 2557

1. ทำไมเลนส์โปรเกรสซีฟจึงมีราคาสูงและใช้งานยาก : ว่าด้วยเรื่องของโครงสร้างเลนส์โปรเกรสซีฟ
 
     ก่อนอื่นเราต้องมาทำความเข้าใจในโครงสร้างของเลนส์โปรเกรสซี

ฟว่าเป็นอย่างไร เลนส์โปรเกรสซีฟเป็นเลนส์ที่มีค่าสายตาหลายค่าใน

เลนส์ชิ้นเดียว เปรียบเสมือนเราเอาเลนส์ที่มีค่าสายตาต่างๆ ไล่ระดับ

ค่ากันมาเรียงซ้อนกัน โดยให้ค่าสายตาที่น้อยกว่าอยู่ด้านบนและค่าสายตา

มากสุดอยู่ด้านล่าง

 

     ในทางการผลิตก็ทำเช่นเดียวกันแต่แทนที่จะตัดเป็นชิ้นๆมาเรียงกันซึ่ง

จะมีรอยต่อ ก็จะใช้วิธีการขัดเลนส์ให้มีค่าสายตาไล่ระดับกันตามค่าที่ต้อง

การตั้งแต่สายตามองไกลเรื่อยมาจนถึงสายตามองใกล้ ซึ่งจะทำให้ได้

เลนส์โปรเกรสซีฟหนึ่งชิ้นที่มีหลายค่าสายตาด้วยกัน

 

     อย่างไรก็ตามด้วยวิธีการนี้จะพบว่าเลนส์ที่ได้จะเกิดภาพ Astigmatism error ขึ้นจำนวนมากในบริเวณ Blending เมื่อเรามอง

ผ่านบริเวณนั้นจึงรู้สึกภาพวูบวาบหรือเคลื่อนไหวไปมา ดังนั้นเลนส์โปรเกรสซีฟจึงเกิดข้อจำกัดของพื้นที่จำเป็นในการใช้งานกับพื้นที่

Astigmatism error ที่เกิดขึ้นการที่จะลดข้อจำกัดดังกล่าวจึงต้องอาศัยเทคโนโลยี 2 ส่วนด้วยกัน คือ

1. เทคโนโลยีด้านการออกแบบเลนส์

2. เทคโนโลยีด้านการขัดเลนส์
 
     ในอดีตเทคโนโลยีด้านการขัดเลนส์มักจะใช้วิธีการหล่อ โดยการทำแบบพิมพ์โลหะที่มีค่าสายไล่ระดับก่อน จากนั้นจึงนำมาขัดด้วย

เครื่องขัดผิวเลนส์อีกด้าน เรามักเรียกเลนส์โปรเกรสซีฟกลุ่มนี้ว่า Conventional progressive lens หรือเลนส์โครงสร้างดั่งเดิม วิธีนี้

จะทำได้ครั้งละมากๆ ประหยัดต้นทุนกว่า ราคาจึงถูกกว่ามาก แต่มีข้อเสียที่เทคโนโลยีการออกแบบจะถูกจำกัดด้วยปริมาณความหลาก

หลายของแม่พิมพ์ มีการผลิตแบบ Mass production ทำให้ไม่สามารถรองรับการออกแบบเลนส์ที่ซับซ้อนของพารามิเตอร์จำนวนมาก

ได้ ทำให้ปัญหาของ Distortion error ลดลงไม่ได้มากนัก จึงมีอาการของภาพวูบวาบค่อนข้างสูงและมีพื้นที่การใช้งานได้น้อย

 

     ปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีการผลิตก้าวหน้ามากขึ้น จึงมีการนำเทคโนโลยีการขัดด้วยระบบ Digital หรือในทางอุตสาหกรรมรู้จักกันที่

เรียกว่า Computer Numerical Control หรือ CNC เครื่องกลึงสามมิติควบคุมโดยคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะสามารถรองรับเทคโนโลยีการ

ออกแบบที่ซับซ้อนบนคอมพิวเตอร์ได้อย่างดี และสามารถทำได้ตามค่าสายตาและพารามิเตอร์ต่างๆ ของแต่ละบุคคลได้อย่างแม่นยำ

ทำให้ข้อจำกัดด้านการออกแบบลดลงอย่างมาก เลนส์ที่ได้จึงมี Astigmatism error น้อยลงมาก ทำให้มีพื้นที่ในการใช้งานมากขึ้นมาก

ซึ่งเราจะเรียกเลนส์โปรเกรสซีฟกลุ่มนี้ว่า Digital surfacing หรือ Free form progressive lens การผลิตแบบนี้มีต้นทุนที่สูงกว่า ด้วย

เทคโนโลยีและเวลาในการผลิต จึงทำให้มีราคาแพงกว่าแบบ Conventional lens นั้นเอง

 

     นี่คือที่มาว่าทำไมเลนส์โปรเกรสซีฟจึงมีความแตกต่างด้านราคาค่อนข้างมาก กล่าวคือ

1. เทคโนโลยีการขัดที่ต่างกันระหว่าง Conventional กับ Digital surfacing ที่ให้ความซับซ้อนและแม่นยำในการขัดเลนส์ต่างกัน  

2. เทคโนโลยีการออกแบบเลนส์ที่ซับซ้อนทำให้เหลือ Astigmatism error ให้น้อยที่สุด จึงให้พื้นที่การใช้งานได้สูง 

 

     ทั้งสองส่วนจึงมีความสำคัญต่อคุณภาพของเลนส์โปรเกรสซีฟที่ได้มาอย่างมาก ดังนั้นในการเลือกซื้อหาเลนส์โปรเกรสซีฟ จึงจำ

เป็นต้องทราบถึงชนิดโครงสร้างเลนส์จึงจะทราบทั้งคุณภาพและราคาที่เหมาะสม เลนส์ราคาถูกมักจะมีโครงสร้างแบบดั่งเดิม ซึ่งก็จะ

ตามมาด้วยพื้นที่ในการใช้งานน้อย มีภาพวูบวาบด้านข้างมาก ทำให้ต้องใช้เวลาในการปรับตัวมาก

 

     นอกจากนี้ยังคงมีพารามิเตอร์อื่นๆ อีกที่มีผลต่อประสิทธิภาพของเลนส์ เช่น

-  ความแม่นยำในการวัดค่าสายตา

-  ความละเอียดในการวัดค่าพารามิเตอร์ต่างๆ

-  ความแม่นยำในการฝนและประกอบเลนส์โปรเกรสซีฟเข้ากรอบแว่นตา เป็นต้น

 

จะได้กล่าวถึงต่อไป